วันศุกร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ขายตรง แชร์ลูกโซ่ธุรกิจ เครือข่าย คุณจะรู้ได้อย่างไร

ทั้ง 3 ธุรกิจนี้หลายๆท่านอาจคิดว่าเป็นธุรกิจเดียวกัน(ถึงแม้ว่าในทางกฎหมายทั้ง 3 ธุรกิจจะจดทะเบียนการค้าเหมือนกัน คือ ขายตรง ก็ตามที) ก็ไม่แปลกที่หลายๆท่านคิดอย่างนั้น เพราะทั้ง 3 ธุรกิจนี้มีข้อแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น (ในทางกฎหมาย ขายตรงและธุรกิจเครือข่ายถูกกฎหมาย แต่แชร์ลูกโซ่ผิดกฎหมาย) และข้อแตกต่างเพียงเล็กน้อยนี้กลับส่งผลที่ยิ่งใหญ่และชัดเจนต่อความมั่นคงของทั้ง 3 ธุรกิจนี้

ธุรกิจขายตรง
ธุรกิจขายตรงต้องถือว่าเป็นปฐมบทหรือต้นกำเนิดของทั้ง 3 ธุรกิจนี้ทีเดียว

วิธีสังเกต
ธุรกิจขายตรง สังเกตง่ายๆ ดูที่รายได้หลักของบริษัท จะได้มาจากการขายนั่นเอง
รายหลักได้ของสมาชิกที่ทำธุรกิจขายตรง ก็ได้มาจากเปอร์เซ็นต์จากการขาย
ดังนั้นคนที่จะทำธุรกิจนี้ ต้องเป็นนักขายมือทองทีเดียว จึงจะประสบความสำเร็จได้
รวมไปถึงสินค้าที่นำมาจำหน่ายก็ต้องสุดยอด หรือต้องมีจุดขาย ยกตัวอย่างเช่น ธุรกิจประกันชีวิต
และสุดยอดขายตรงเมืองไทย


ธุรกิจแชร์ลูกโซ่
ธุรกิจนี้ผิดกฎหมาย แต่ถ้าจับไม่ได้คาหนังคาเขา ก็ยังลอยนวลกันไป

วิธีสังเกต
ธุรกิจนี้จะทำมาหากินกับการหาสมาชิกเป็นหลัก แล้วก็หักหัวคิวกันเป็นรายๆไป
อาจมาในรูปแบบของการหว่านล้อมให้ซื้อสินค้าจำนวนมากๆ , ค่าสมัครที่แพง (เกิน 500 ก็ถือว่าแพง)
การต่ออายุสมาชิก ฯลฯ ดังนั้นธุรกิจจึงต้องหาสมาชิกตลอดเวลา ไม่มี สคบ. อย. ประเทศไทย
ส่วนสินค้าของธุรกิจนี้แทบจะไม่มีความหมาย หรือแทบจะไม่พูดถึงกันเลยทีเดียว ส่วนมากจะมีตัวสองตัว หรือเป็นสินค้าที่ไม่ความพิเศษอะไรเลย


ธุรกิจเครือข่าย
ธุรกิจเครือข่ายอยู่ตรงกลางระหว่างขายตรงและแชร์ลูกโซ่

วิธีสังเกต
ธุรกิจนี้มีสินค้าจำหน่าย แต่ไม่ได้เน้นให้เอาไปขายใคร คือเน้นให้สมาชิกได้ใช้เป็นหลัก
ดังนั้นสินค้าของธุรกิจนี้ก็ต้องถือสุดยอดเช่นกันและสินค้าควรมีความโดดเด่น เป็นความต้องการของผู้บริโภค มี อย. หลายประเทศยิ่งดี

ธุรกิจเครือข่ายก็มีการหาสมาชิก แต่ไม่ได้เริ่มจากการตั้งใจหา หรือหามาเชือดหักหัวคิว
มันเริ่มจาการที่เราใช้สินค้าแล้วเห็นว่าดี เราก็แบ่งปันความรู้สึกนี้ให้คนอื่นได้รู้ว่า เฮ้ย! ในโลกนี้มันมีสินค้าดีๆอย่างนี้ อยู่ในโลกด้วยนะ มาลองใช้ดูซิ ดังนั้นธุรกิจนี้จึงเป็นธุรกิจของการแบ่งปัน ใช้ดีแล้วบอกต่อและบอกต่อ กลายเป็นเครือข่ายที่มั่นคงและยั่งยืน ขยายไปเรื่อยๆๆๆๆ และต้องถูกกฎหมาย มีใบ สคบ.
โดยส่วนมากแล้วบริษัทที่ทำเป็นเครือข่าย จะสามารถทำเป็นแบบขายตรงได้ด้วย
ดังนั้นบริษัทเดียวกัน คุณอาจจะเห็นสมาชิกบริษัทนั้น มีทั้งสไตล์ขายตรง และสไตล์เครือข่าย
ต่อไปนี้คุณคงไม่สับสนแล้ว เพราะบางท่านก็ยังไม่รู้ตัวว่าทำทั้ง 2 สไตล์เลย
ถ้าวันนี้ คุณสนใจธุรกิจนี้อยู่ไม่ว่าจะเป็นขายตรงหรือเครือข่าย
แล้วอยากรู้ แนวคิดธุรกิจ วิธีเลือกธุรกิจเครือข่าย การทำธุรกิจเครือข่าย

ที่มาบทความ : http://aimstarnetworkthai.igetweb.com/

คุณภาพและความปลอดภัย ของน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวไวทอลสตาร์ Vital Star

ในปัจจุบันในท้องตลาดมีผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับน้ำมันรำข้าวหลากหลายยี่ห้อออกมาจำหน่ายให้คนรักสุขภาพอย่างเราได้เลือกบริโภคกัน วันนี้ผมเลือกอย่างแนะนำว่าน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวไวทอลสตาร์มีกรรมวิธีผลิตอย่างไรก่อนออกมาให้พวกเราบริโภคกัน


ขั้นตอนการผลิต
เริ่มต้นจากการคัดสรรรำข้าวสด ที่เก็บไว้ไม่เกิน 24 ชั่วโมง ที่สำคัญต้องเป็นข้าวไทย ที่มีคุณประโยชน์สูงสุด หลังจากนั้นนำไปตรวจสอบคุณภาพด้วยเครื่อง NIRS (Near-infrared System)
หลังจากนั้นวัตถุดิบทั้งหมดที่ผ่านการตรวจสอบด้วยเครื่อง NIRS แล้วจะถูกส่งผ่านเครื่อง Expander ที่มีไอน้ำอุณหภูมิสูง 110-120 องศา เพื่ออบให้แห้ง ก่อนถูกส่งไปสกัดเป็นน้ำมันด้วยสารทำละลายเฮ็กเชน (Hexane)



เนื่องจากต้องใช้สารละลายเฮ็กเชนเป็นตัวทำละลายสกัดให้ได้สารสกัดที่มีประโยชน์ออกมา เมื่อถึงขั้นตอนสุดท้ายต้องทำการกำจัดสารละลายดังกล่าวออกมาจากผลิตภัณฑ์ตามมาตรฐานสากลอนุญาตให้มีสารละลายเฮ็กเชนตกค้างอยุ่ได้ไม่เกิน 30 PPM (30 ส่วนในร้อนส่วน) พูดง่าย ๆ ว่า น้ำมันรำข้าว 10000000 หยด ต้องมีสารตกค้างปนเปิ้อนไม่เกิน 30 หยด ซึ่งน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวไวทอลสตาร์ผ่านการทดสอบจากสถาบัน OMIC ว่าไม่มีสารละลายตกค้างอยู่เลย (Hexane not detected)
ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่า เราจะได้รับคุณประโยชน์สูงสุดจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เราเลิอกบริโภคจริง ๆ

Gamma Oryzanol แกมมา ออไรซานอล มีประโยชน์อย่างไร

แกมมา ออไรซานอล และอนุพันธ์ของกรด แฟรูลิค (Frolic acid) เป็นส่วนประกอบสำคัญในน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวไวทอลสตาร์ ซึ่งมีคุณสมบัติหลากหลายประการดังจะกล่าวต่อไปนี้

1. แอนตี้ออกซิแดนท์ (Antioxidant) ซึ่งหมายถึงการต่อต้านอนุมูลอิสระ หรือจะกล่าวง่าย ๆ ว่า การลดดอัตราการเสื่อมสภาพของเซลล์ในร่างกายทำให้ลดอัตราการแก่อ่อนวัย (Anti-aging) และช่วยป้องกันการเปลี่ยนแปลงเป็นเซลล์ที่ผิดปกติ หรือที่เรียกว่า เซลล์มะเร็ง (Cancer)
2. มีความสารารถในการป็องกันเซลลล์ผิวจากการถูกทำลายด้วยแสงแดด
3. ยับยั้งการทำงานเอ็มไซน์ไทโรซิเนส ซึ่งเป็นตัวเร่งปฎิกิริยาในการสร้างเม็ดสี ดังนั้นจีงช่วยลดอัตราการสร้างเม็ดสีผิว จึงช่วยให้ผิวดูกระจ่างใส
4. ลดระดับของไขมันในเลือด ลดอัตราการเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจอุดตัน
5. เพิ่มการหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน (Endophine Hormone) ช่วยผ่อนคลายความเครียดและทำให้หลับสบาย
6. กระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนสำหรับการเจริญเติบโต (Growth Hormone)
7. ลดการสูญเสียแคลเซียม ทำให้ลดอัตราเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระดูกพรุน (Bone Degeneration Osteoporosis)
8. ลดอัตราอาการที่เกิดจากภาวะวัยทอง (Menopause)

เเผนกระจายรายได้เเบบสตาร์เเมทชิ่ง (Star Matching - Aim Star)

แผนธุรกิจสตาร์แมทชิ่ง


รายได้ 7 ทางตามแผนธุรกิจสตาร์แมทชิ่ง(Star Matching)
1. กำไรจากการขายปลีก 20-30% (Retail Benefit 20-30%)
2. โบนัสสาขา20% (Branch Bonus 20%)
3. โบนัสส่วนบุคคล 20% (Personal Bonus 20%)
4. โบนัสทีมอ่อน 20% (Weak Team Bonus 20%)
5. โบนัสทีมแข็ง 10-13% (Strong Team Bonus)
6. โบนัสสตาร์แมทชิ่ง ทีมแข็งชั้นลูก 100%
7. โบนัสสตาร์แมทชิ่ง ทีมแข็งชั้นหลาน 50% (Star Matching Bonus 50%)


รายละเอียดแผนธุรกิจสตาร์แมทชิ่ง
1. กำไรจากการขายปลีก 20-30% (Retail Benefit 20-30%)
ตัวอย่าง
นักธุรกิจเอมสตาร์ซื้อผลิตภัณฑ์จากบริษัทเอมสตาร์เน็ทเวิร์คในราคาสมาชิก 750 บาท แล้วจำหน่ายปลีกผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าตามราคาปกติ 900 บาท
ได้กำไรจากการค้าปลีกจำนวน 150 บาท หรือเท่ากับ 20%

2. โบนัสสาขา20% (Branch Bonus 20%)
20% ของยอดธุรกิจส่วนตัวของนักธุรกิจเอมสตาร์ที่เราเป็นผู้สปอนเซอร์แต่ไม่เกิน 1,000 คะแนน
ตัวอย่าง
นักธุรกิจเอมสตาร์ได้สปอนเซอร์ให้ผู้อื่นสมัครเข้ามาเป็นนักธุรกิจเอมสตาร์
และมียอดธุรกิจส่วนตัว 1,000 คะแนน
นักธุรกิจเอมสตาร์ที่เป็นผู้สปอนเซอร์จะได้รับโบนัสสาขา
20% x 1,000 = 200 บาท
นักธุรกิจเอมสตาร์สปอนเซอร์นาย ก.
นาย ก. มียอดธุรกิจส่วนตัว = 1,000 คะแนน
นักธุรกิจเอมสตาร์ที่เป็นผู้สปอนเซอร์นาย ก.
ได้รับโบนัสสาขา = 20% X 1,000 = 200

3. โบนัสส่วนบุคคล 20% (Personal Bonus 20%)
20% ของยอดธุรกิจส่วนตัวที่เกินกว่า 1,000 คะแนน
ตัวอย่าง
นักธุรกิจเอมสตาร์ที่มียอดธุรกิจส่วนตัว 1,500 คะแนน
จะได้รับโบนัสส่วนบุคคล (Personal Bonus) 20% x 500 = 100 บาท

4. โบนัสทีมอ่อน 20% (Weak Team Bonus 20%)
20% ของคะแนนทีมอ่อนแต่ไม่เกินยอดคำนวณโบนัสที่กำหนด
ตัวอย่าง
นักธุรกิจเอมสตาร์ที่มียอดธุรกิจของทีมอ่อน 10,000 คะแนน
จะได้ รับโบนัสทีมอ่อน= 20 % x 10,000 = 2,000 บาท
ยอดธุรกิจทีมอ่อน (ข) = 10,000 คะแนน
โบนัสทีมอ่อน = 20% X 10,000 คะแนน
= 2,000 บาท

5. โบนัสทีมแข็ง 10-13% (Strong Team Bonus)
10-13% ขึ้นอยู่กับตำแหน่งและคุณสมบัติของนักธุรกิจเอมสตาร์นั้นๆ โดยคิดจากคะแนนที่เท่ากับทีมอ่อนและไม่เกิดยอดคำนวณโบนัสสูงสุดของคะแนนที่กำหนด
ตัวอย่าง
นักธุรกิจเอมสตาร์ระดับซูเปอร์ไวเซอร์ (Supervisor)
ที่มียอดธุรกิจของทีมแข็ง 20,000 คะแนน และยอดธุรกิจทีมอ่อน 10,000 คะแนน
จะได้รับโบนัสทีมแข็ง = 10% x 10,000 = 1,000 บาท
ยอดธุรกิจทีมแข็ง (ก) = 20,000 คะแนน
ยอดธุรกิจทีมอ่อน (ข) = 10,000 คะแนน
เพราะฉะนั้นยอดคำนวณโบนัสทีมแข็ง
เท่ากับ 10,000 คะแนน ( คะแนนทีมแข็งที่เหลือ
อีก 10,000 คะแนน เก็บไว้คำนวณในรอบถัดไป)
โบนัสทีมแข็ง = 10% X 10,000 คะแนน
= 1,000 บาท

6. โบนัสสตาร์แมทชิ่ง ทีมแข็งชั้นลูก 100% (Star Matching Bonus 100%)
100% ของโบนัสทีมแข็งของทีมลูก (ผู้ที่ตนสปอนเซอร์)
ตัวอย่าง
น.ส.สุขใจ ได้สปอนเซอร์นายสมหวัง เมื่อนายสมหวังได้รับโบนัสทีมแข็ง 2,000 บาท น.ส.สุขใจก็จะได้รับโบนัสทีมลูกจำนวน 2,000 บาทเช่นกัน
น.ส.สุขใจ สปอนเซอร์นายสมหวัง
นายสมหวังมียอดธุรกิจดังนี้
ยอดธุรกิจทีมแข็ง = 20,000 คะแนน
ยอดธุรกิจทีมอ่อน = 20,000 คะแนน
เพราะฉะนั้นยอดคำนวณโบนัสทีมแข็งของนาย
สมหวัง เท่ากับ 20,000 คะแนน
โบนัสทีมแข็ง =10% X 20,000คะแนน
= 2,000 บาท
โบนัสทีมลูก = 100% X 2,000 บาท
= 2,000 บาท

7. โบนัสสตาร์แมทชิ่ง ทีมแข็งชั้นหลาน 50% (Star Matching Bonus 50%)
50% ของโบนัสทีมแข็งของทีมหลาน (ลูกของผู้ที่ตนสปอนเซอร์)
ตัวอย่าง
นายสามารถให้การสปอนเซอร์ น.ส.สุขใจ และ น.ส.สุขใจให้การสปอนเซอร์ นายสมหวัง
หรือกล่าวได้ว่า น.ส.สุขใจเป็นทีมลูกของนายสามารถ และ นายสมหวังซึ่งเป็น ทีมลูกของ
น.ส.สุขใจ ก็คือทีมหลานของนายสามารถนั่นเอง
เมื่อนายสมหวังได้รับโบนัสทีมแข็ง (โบนัสทีมแข็งของนายสมหวังเท่ากับ 2,000 บาท)
น.ส.สุขใจจะได้รับโบนัสทีมลูกจำนวน 100% ของโบนัสทีมแข็งของนายสมหวัง
หรือเท่ากับ 2,000 บาท
ส่วนนายสามารถจะได้รับโบนัสทีมหลานจำนวน 50% ของโบนัสทีมแข็งของนายสมหวัง
หรือเท่ากับ 50% x 2,000 = 1,000 บาท นั่นเอง
นายสามารถ สปอนเซอร์ น.ส.สุขใจ
น.ส.สุขใจ สปอนเซอร์นายสมหวัง
นายสมหวังมียอดธุรกิจดังนี้
ยอดธุรกิจทีมแข็ง = 20,000 คะแนน
ยอดธุรกิจทีมอ่อน = 20,000 คะแนน
เพราะฉะนั้นยอดคำนวณโบนัสทีมแข็ง
เท่ากับ 20,000 คะแนน
โบนัสทีมแข็ง = 10% X 20,000 คะแนน
= 2,000 บาท
โบนัสทีมลูก = 100% X 2,000 บาท
= 2,000 บาท
โบนัสทีมหลาน = 50% X 2,000 บาท
= 1,000 บาท

ที่มาบทความ : www.aimstarnetwork.com

น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว Aim Star

น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว

น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว มีสัดส่วนระหว่างกรดไขมันอิ่มตัว และกรดไขมันไม่อิ่มตัว ที่เหมาะสมจึงมีคุณประโยชน์และเหมาะสมต่อการบริโภคมากที่สุด น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวที่ผ่านการสกัดอย่าพิถีพิถันนั้นจะสามารถคงคุณค่าความเข็มข้นของสารประกอบสำคัญต่างๆ ที่ช่วยในการดูแลสุขภาพของเรา

ส่วนประกอบสำคัญของน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว
1. กรดไขมันอิ่มตัว (Saturated Fatty Acid)
2. กรดไขมันไม่อิ่มตัว (Unsaturated Fatty Acid)
3. แกมมา ออริซานอล (Gamma-Orizanal)
4. เซราไมด์ (Ceramide)
5. ฟอสฟอไลปิด (Phospholipids)
6. โทคอลกรุ๊ป (Tocols Group)



กรดไขมันอิ่มตัว (Saturated Fatty Acid)
โดยทั่วไปแล้ว แนะนำให้บริโภคกรดไขมันอิ่มตัวไม่เกิน 10% ของพลังงานทั้งหมด น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวมีสัดส่วนของกรดไขมันอิ่มตัวไม่เกิน 10% จึงเหมาะสมต่อการบริโภคเพื่อการดูแลสุขภาพ เป็นอย่างยิ่ง

กรดไขมันไม่อิ่มตัว (Unsaturated Fatty Acid) 
กรดไขมันไม่อิ่มตัวมีบทบาทต่อการลดระดับไขมันในเลือดโดยลดแอลดีแอล (LDL –C, Low Density Lopoprotein-Choiesterol) และช่วยเพิ่ม เอชดีแอล – คอเลสเตอรอล ซึ่งเป็นคอเลสเตอรอลที่ดี (HDL –C ,High Density Lipoprotein – Cholesterol) จึงช่วยลดอัตราเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด

แกมมา ออริซานอล (Gamma-Orizanal)
เป็นส่วนประกอบที่สำคัญในน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวมีคุณสมบัติที่โดดเด่นหลายประการด้วยกันคือ
- ช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลในเลือด
- ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต
- ช่วยลดอาการผิดปกติต่างๆ ของสตรีวัยทอง
- มีคุณสมบัติเป็นสารต้านการเกิดอนุมูลอิสระและป้องกันรังสีอุลตราไวโอเล็ท
- ช่วยให้ผิวหนังมีความชุ่มชื่น
- ช่วยลดการอักเสบต่างๆ ได้

เซราไมด์ (Ceramide)
เป็นองค์ประกอบของไขมันในชั้นผิวหนัง (Sphingolipid) ซึ่งมีความสำคัญในการปกป้องผนังเซลล์จากการถูกทำลาย มีความสามารถในการกักน้ำได้ดี ช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำจากผิว ทำให้ผิวหนังมีความยีดหยุ่น และชุ่มชื้นอยู่ตลอด

ฟอสฟอไลปิด (Phospholipids)
เป็นโครงสร้างของเยื่อหุ้มต่างๆ ของเซลล์ในร่างกายมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเยื้อหุ้มเซลล์สมองและประสาท ทำให้การสื่อกระแสประสาททำงานได้ดีขึ้น ช่วยปกป้องเซลล์ประสาทจากสารพิษและอนุมูลอิสระต่างๆ นอกจากนี้ยังช่วยเสริมในด้านความจำ และช่วยลดอาการเครียดได้อีกด้วย

โทคอลกรุ๊ป (Tocols Group)
ประกอบด้วย วิตามิน อี (Vitamin E หรือ Tocopherol) โทโคพีนอล (Tocophenol) โทโคไตรอีนอล (Tocotrienol) มีหน้าที่ในการเพิ่มความเข็งแรงให้แก่เซลล์ ช่วยต่อต้านการเกิดอนุมูลอิสระ และป้องกันการแก่ก่อนวัย


เอกสารอ้างอิง
1. Juliano BO,ed Rice :Chemistry and technology, 2nd ed, Minnesota : American Association of Cerial Chemists, Inc 1985 ,p.18
2. Sugano M, Tsu ji E, Rice bran oil and human health, Biomed Environ Sci 1996: 9(2-3):242-6
3. Raghuram TC. Rukmini C. Nutritional significance of rice bran oil .Indian J Med Res 1995:102:241-4

Aimstar network คืออะไร?

Aimstar network คือธุรกิจการขยายเครือข่ายผู้บริโภค โดยเน้นให้ผู้บริโภคสมัครเป็นสมาชิก ซื้อสินค้าใช้เองและแนะนำเพื่อนให้ ใช้สินค้าของ Aimstar นั้นเอง ดังนั้นแล้ว เมื่อเกิดการแนะนำ เพื่อใช้สินค้าจึงทำให้เกิดเครือข่ายผู้บริโภคขึ้น จึงกลายมาเป็นธุรกิจที่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสมาชิก และยังเป็นการช่วยส่งเสริมให้สมาชิกได้รับรายได้อย่างทั่วถึงและยุติธรรม และแผนธุรกิจของ Aim star ยังผ่าน สคบ


จึงมั่นใจได้ว่า Aim star ไม่ได้เอาเปรียบผู้บริโภคแน่นอน



เอมสตาร์(Aim Star) กับ ธุรกิจเครือข่าย ที่ใครๆ อยากรู้จัก

เครือข่ายเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ สามารถสร้างหลาย ๆ คนหลายคนเป็นมหาเศรษฐีกันก็หลายราย การดำเนินธุรกิจเครือข่ายช่วงแรกของการดำเนินธุรกิจ รายได้ที่ได้จากธุรกิจเครือข่ายของคุณอาจจะไม่มากนัก ไม่เป็นกอบเป็นกำ แต่ในระยะเวลา ปี หรือ สอง ปี คุณสามารถสร้างรายได้เดือนละแสนบาท หรือบางคนอาจจะเป็นล้านบาทเข้าสู่ครอบครัวก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าใครทุ่มเทและเรียนรู้ในการทำงานมากน้อยเพียงใด



ธุรกิจเครือข่ายไม่ว่าจะเป็นค่ายไหน หลักการง่าย ๆ คือการประกอบธุรกิจที่ประสงค์ จะจำหน่ายสินค้าให้กับผู้บริโภคโดยตรง โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง ทำให้ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในกระบวนการตลาดตามปกติ เช่นการบวกเพิ่มผลกำไรของพ่อค้าคนกลาง หรือของนายทุน จะถูกนำมาจ่ายให้กับสมาชิกผู้ดำเนินธุรกิจเครือข่ายแทน โดยจะมีการจ่ายเงินคืนให้กับสมาชิกตามแผนการตลาดของบริษัท โดยสมาชิกสามารถดำเนินธุรกิจด้วยการแนะนำบอกต่อ ประเภทที่ว่าใช้ดีแล้วบอกต่อ


ขยายฐานธุรกิจด้วยการบอกต่อกันไปเรื่อย ๆ ด้วยการนี้ธุรกิจเครือข่าย จึงเป็นธุรกิจที่สามารถทำได้ทุก ๆ คน โดยไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์มาก่อน ทั้งนี้เนื่องจากในการดำเนินธุรกิจนั้นคุณจะมีที่ปรึกษาทางธุรกิจ หรือเรียกว่าอัพไลน์คอยให้ความช่วยเหลือคุณ

คุณไม่ต้องเปิดหน้าร้านเพื่อขายสินค้า เพียงขยายฐานการบริโภค และแต่ละคนก็จะไปซื้อสินค้าที่ศูนย์บริการเอง คุณจึงไม่จำเป็นต้องลงทุนกักตุนหรือสต๊อกสินค้าแต่อย่างใด อีกทั้งยังเป็นธุรกิจที่ไม่ต้องอาศัยทำเล เนื่องจากคุณสามารถเชิญชวนเพื่อน ๆ หรือคนที่คุณรู้จักได้ทุกที่ ที่คุณสะดวกคุย และในการเริ่มต้นทำธุรกิจนั้นใช้เงินลงทุนน้อย เพียงเงินหลักร้อยคุณก็สามารถสร้างธุรกิจเครือข่ายของคุณได้แล้ว

เอมสตาร์(Aim Star) ดีจริง หรือเป็นเพียงแค่ กระแส.. ??

นับวัน เราก็จะยิ่งเห็น ธุรกิจเครือข่ายใหม่ๆ เกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ มากขึ้นๆ เรื่อยๆ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2010 นี้  เฉพาะแค่ ธุรกิจเครือข่ายสัญชาติไทย ก็นับกันไม่หวาดไม่ไหวแล้ว ยิ่งเป็น ธุรกิจเครือข่าย ที่อิมพอร์ตเข้ามาจากต่างประเทศด้วยล่ะก็ ยิ่งมีจำนวนมากกว่านี้อีกหลายเท่าเลยทีเดียว  นี่ยังไม่รวมพวก แชร์ลูกโซ่ ที่เดี๋ยวนี้แฝงตัวมาในรูปของ ธุรกิจเครือข่าย อีกด้วยนะ !
ซึ่งการเพิ่มจำนวนขึ้นของ ธุรกิจเครือข่าย ก็สอดคล้องกับสถิติ ที่ Search Engine ชื่อดังอย่าง Google ได้เก็บข้อมูลไว้ว่า จำนวนผู้คนที่สนใจ การทำธุรกิจเครือข่าย และ ธุรกิจออนไลน์ มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง และจะยิ่งทวีคูณขึ้นอีกในอนาคตอันใกล้นี้..
และ 1 ใน ธุรกิจเครือข่ายสัญชาติไทย ที่กำลังมาแรง และได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นั่นก็คือ ธุรกิจเครือข่าย  เอมสตาร์ แต่กระนั้น ก็ยังมีข่าวในด้านลบออกมาด้วยว่า ธุรกิจ  เอมสตาร์ หลอกลวง  อย่างโน้น อย่างนี้  ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางในอินเตอร์เน็ต  หลายๆคนตั้งข้อสังเกตกันไปต่างๆนานา บ้างก็ว่า ..
1. มีพวก 18 มงกุฎ หรือ แก๊งค์มิจฉาชีพ ใช้ชื่อเสียงของธุรกิจเครือข่าย  เอมสตาร์ มาเป็นเครื่องมือในการทำมาหากิน โดยออกอุบายชักชวนผู้คนให้มาทำธุรกิจ ด้วยวิธีการที่ไม่ค่อยจะถูกต้องนัก เช่น
… มาทำธุรกิจ เอมสตาร์ ด้วยกันสิ สมัครครั้งเดียว ไม่ต้องรักษายอด ไม่ต้องไปขายของ..
… มาทำธุรกิจ เอมสตาร์ ด้วยกันสิ แค่เดือนเดียว ก็ได้ทุนคืนหมดแล้ว..
… มาทำธุรกิจ เอมสตาร์ ด้วยกันสิ ทำแค่ 3 เดือน ก็มีรายได้หลักแสนบาทแล้ว..
… มาทำธุรกิจ เอมสตาร์ ด้วยกันสิ ไม่ต้องทำงานเอง เดี๋ยวอัปไลน์ช่วยหาคนมาต่อสายงานให้..
… มาทำธุรกิจ เอมสตาร์ ด้วยกันสิ แค่หาคนมาต่อๆกัน ให้ได้เยอะ แค่นี้ก็สบายไปทั้งชาติแล้ว..
หลังจากที่ชักชวนคนให้สมัครเข้ามาแล้ว ก็ปล่อยลอยแพ ไม่สนใจ ทำให้คนที่ถูกหลอก เกิดความไม่พอใจ จึงหันมากล่าวโทษว่า เอมสตาร์ หลอกลวงให้เสียเงินฟรี!
2. นักธุรกิจเครือข่าย  เอมสตาร์ ส่วนใหญ่ ยังทำธุรกิจด้วยวิธีการแบบเดิมๆ ไม่ว่าจะเป็น
  • ลิสต์รายชื่อคนรู้จักให้ได้อย่างน้อย 100 รายชื่อ
  • ท่องสคริปต์  แล้วโทรกระหน่ำหา ผู้มุ่งหวัง เพื่อ Show the Plan , Share the Product
  • นัดหมายผู้มุ่งหวังเพื่อทำการสปอนเซอร์
  • พาผูุ้มุ่งหวังเข้างานประชุมของบริษัท หรือพาเข้าฟังชั่นต่างๆ ฯลฯ
ซึ่งวิธีการเหล่านี้ น้อยคนที่จะประสบความสำเร็จได้ ส่วนใหญ่มักจะต้องพบเจอกับ คำปฏิเสธ  เสียเงิน เสียเพื่อน เสียความรู้สึก  และสุดท้ายก็ ได้ไม่คุ้มเสีย ฯลฯ
ดังนั้น หลายๆคนที่ใช้วิธีการแบบนี้จึงมักจะ ล้มเหลว เสียเป็นส่วนใหญ่ แล้วก็หันมาตำหนิว่า เอมสตาร์หลอกลวง  ให้ทำธุรกิจด้วยวิธีที่ไม่ได้ผล..

มาทำความรู้จักกับ Aim Star Network ดีกว่า

มารู้จักแผน STARMATHCING
แผนธุรกิจสตาร์แมทชิ่ง (STARMATCHING)
แผนธุรกิจสตาร์แมทชิ่งเป็นแผนธุรกิจที่ง่ายต่อการปฏิบัติงานให้ผลตอบแทนกับนักธุรกิจเอมสตาร์อย่างสูงสุดจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์
และบริหารองค์กรธุรกิจของบริษัทฯ โดยนักธุรกิจเอมสตา์็่ร์จะได้รับรายได้ต่างๆ ดังนี้

1. กำไรจากการขายปลีก 20-30% (Retail Benefit 20-30%)
2. โบนัสสาขา 20% (Branch Bonus 20%)
3. โบนัสส่วนบุคคล 20% (Personal Bonus 20%)
4. โบนัสทีมอ่อน 20% (Weak Team Bonus 20%)
5. โบนัสทีมแข็ง 10-13% (Strong Team Bonus)
6. โบนัสสตาร์แมทชิ่ง ทีมลูก 100% (Star Matching Bonus 100%)
7. โบนัสสตาร์แมทชิ่ง ทีมหลาน 50% (Star Matching Bonus 50%)

ตำแหน่งของนักธุรกิจเอมสตาร์และการเติบโตของธุรกิจ
การเป็นนักธุรกิจเอมสตาร์ก็เหมือนการทำธุรกิจส่วนตัวที่ท่านสามารถเริ่มจากการมีธุรกิจขนาดเล็กและเมื่อท่านมีความตั้งใจในการทำธุรกิจ
ธุรกิจที่ท่านดูแล เอาใจใส่ ก็จะเติบโตและขยายเครือข่ายกว้างขวาง ธุรกิจเครือข่ายที่มีขนาดใหญ่ สามารถสร้างรายได้จำนวนมหาศาล
มีความมั่นคง นักธุรกิจเอมสตาร์ในแต่ละตำแหน่งจะมีรายได้ตามแผนธุรกิจสตาร์แมทชิ่ง เพิ่มขี้นดังต่อไปนี้

1. นักธุรกิจเอมสตาร์ระดับ ซุปเปอร์ไวเซอร์์ (Supervisor)
การขึ้นตำแหน่ง
มียอดธุรกิจส่วนตัวไม่น้อยกว่า 1,000 พีวีต่อเดือน
การดำรงคุณสมบัติ
รักษายอดธุรกิจส่วนตัวไม่น้อยกว่า 300 พีวีต่อเดือน
ผลตอบแทนที่ได้รับ
ได้รับการคำนวณโบนัสทีมแข็ง 10% และมียอดคำนวณโบนัสสูงสุด 600,000 คะแนนต่อเดือน
รายได้ตามแผนธุรกิจสตาร์แมทชิ่ง

2. นักธุรกิจเอมสตาร์ระดับ มาร์เกตติ้ง เอ็กเซคคิวทีฟ (Marketing Executive)
การขึ้นตำแหน่ง
มียอดธุรกิจส่วนตัวไม่น้อยกว่า 1,200 พีวีต่อเดือนให้การสปอนเซอร์นักธุรกิจเอมสตาร์
ระดับซูเปอร์ไวเซอร์ขึ้นไปอย่างน้อย 3 รหัส (ที่ยังคงสมาชิกภาพ)
การดำรงคุณสมบัติ
รักษายอดธุรกิจส่วนตัวไม่น้อยกว่า 500 พีวีต่อเดือน
ผลตอบแทนที่ได้รับ
ได้รับการคำนวณโบนัสทีมแข็ง 10% และมียอดคำนวณโบนัสสูงสุด 750,000 คะแนนต่อเดือน
รายได้ตามแผนธุรกิจสตาร์แมทชิ่ง

3. นักธุรกิจเอมสตาร์ระดับ บร๊านช์ เมเนเจอร์ (Branch Manager)
การขึ้นตำแหน่ง
มียอดธุรกิจส่วนตัวไม่น้อยกว่า 1,500 พีวีต่อเดือนให้การสปอนเซอร์นักธุรกิจเอมสตาร์
ระดับมาร์เกตติ้ง เอ็กเซคคิวทีฟ ขึ้นไปอย่างน้อย 5 รหัส (ที่ยังคงสมาชิกภาพ)
การดำรงคุณสมบัติ
รักษายอดธุรกิจส่วนตัวไม่น้อยกว่า 700 พีวีต่อเดือน
ผลตอบแทนที่ได้รับ
ได้รับการคำนวณโบนัสทีมแข็ง 10% และมียอดคำนวณโบนัสสูงสุด 900,000 คะแนนต่อเดือน
รายได้ตามแผนธุรกิจสตาร์แมทชิ่ง

4. นักธุรกิจเอมสตาร์ระดับ แอเรีย เมเนเจอร์ (Area Manager)
การขึ้นตำแหน่ง
มียอดธุรกิจส่วนตัวไม่น้อยกว่า 2,000 พีวีต่อเดือนให้การสปอนเซอร์นักธุรกิจอิสระเอมสตาร์
ระดับบร๊านช์ เมเนเจอร์ขึ้นไปอย่างน้อย 7 รหัส (ที่ยังคงสมาชิกภาพ)
การดำรงคุณสมบัติ
รักษายอดธุรกิจส่วนตัวไม่น้อยกว่า 1,000 พีวีต่อเดือน
ผลตอบแทนที่ได้รับ
ได้รับการคำนวณโบนัสทีมแข็ง 11% และมียอดคำนวณโบนัสสูงสุด 1,200,000 คะแนนต่อเดือน
รายได้ตามแผนธุรกิจสตาร์แมทชิ่ง

5. นักธุรกิจเอมสตาร์ระดับ รีเจียนอล เมเนเจอร์ (Regional Manager)
การขึ้นตำแหน่ง
มียอดธุรกิจส่วนตัวไม่น้อยกว่า 3,000 พีวีต่อเดือนให้การสปอนเซอร์นักธุรกิจเอมสตาร์
ระดับบร๊านช์ เมเนเจอร์ขึ้นไปอย่างน้อย 9 รหัส (ที่ยังคงสมาชิกภาพ)
การดำรงคุณสมบัติ
รักษายอดธุรกิจส่วนตัวไม่น้อยกว่า 1,200 พีวีต่อเดือน
ผลตอบแทนที่ได้รับ
ได้รับการคำนวณโบนัสทีมแข็ง 12% และมียอดคำนวณโบนัสสูงสุด 1,800,000 คะแนนต่อเดือน
รายได้ตามแผนธุรกิจสตาร์แมทชิ่ง

6. นักธุรกิจอิสระเอมสตาร์ระดับ เจนเนอรัล เมเนเจอร์ (General Manager)
การขึ้นตำแหน่ง
มียอดธุรกิจส่วนตัวไม่น้อยกว่า 4,000 พีวีต่อเดือนให้การสปอนเซอร์นักธุรกิจเอมสตาร์
ระดับบร๊านช์ เมเนเจอร์ขึ้นไปอย่างน้อย 11 รหัส (ที่ยังคงสมาชิกภาพ)
การดำรงคุณสมบัติ
รักษายอดธุรกิจส่วนตัวไม่น้อยกว่า 1,500 พีวีต่อเดือน
ผลตอบแทนที่ได้รับ
ได้รับการคำนวณโบนัสทีมแข็ง 13% และมียอดคำนวณโบนัสสูงสุด 2,400,000 คะแนนต่อเดือน
รายได้ตามแผนธุรกิจสตาร์แมทชิ่ง

หมายเหตุ
นักธุรกิจเอมสตาร์ที่มีคุณสมบัติครบสำหรับการขึ้นตำแหน่งในรอบใดๆจะต้องทำหนังสือยืนยันความประสงค์ในการขึ้นตำแหน่งพร้อมลายเซ็น
ของผู้สมัครหลักและผู้สมัครร่วม(ถ้ามี) และส่งให้กับบริษัทภายในวันที่ 15 ของเดือนนั้นๆเพื่อทางบริษัทจะได้ดำเนินการเปลี่ยนตำแหน่ง
ทางธุรกิจของท่านอย่างเป็นทางการ
หากท่านมิได้ส่งหนังสือยืนยันความประสงค์ในการขึ้นตำแหน่งดังกล่าว บริษัทฯ จะยังมิได้ดำเนินการเปลี่ยนตำแหน่งให้ท่าน ท่านจะยังคง
ดำรงสถานภาพนักธุรกิจเอมสตาร์ในตำแหน่งเดิมได้ต่อไป ทั้งนี้ บริษัทฯสงวนสิทธิ์ การพิจารณาในการขอปรับขึ้นตำแหน่งให้อยู่ในดุลยพินิจ
ของบริษัทฯทุกกรณี




ทั้งนี้ เมื่อท่านมีคุณสมบัติการขอปรับขึ้นตำแหน่งตามที่กำหนดไว้ข้างต้นแล้ว เพื่อให้การขึ้นตำแหน่งเป็นไปอย่างเหมาะสมกับการเติบโตขององค์กรที่เกิดขึ้นจริง บริษัทจึงได้กำหนดแนวทางเพื่อใช้ประกอบการพิจารณาการขอปรับขึ้นตำแหน่งทางธุรกิจของท่าน ดังนี้



การขอปรับขึ้นตำแหน่งระดับ มาร์เกตติ้ง เอ็กเซคคิวทีฟ ( Marketing Executive )
ท่านจะต้องมียอดธุรกิจทีมอ่อนอย่างน้อย 10 % ของยอดคำนวณโบนัสสูงสุดของตำแหน่งทางธุรกิจ ณ ปัจจุบัน
หรืออย่างน้อย 60,000 พีวีขึ้นไปต่อเดือน



การขอปรับขึ้นตำแหน่งระดับ บร๊านช์ เมเนเจอร์ ( Branch Manager )
ท่านจะต้องมียอดธุรกิจทีมอ่อนอย่างน้อย 10 % ของยอดคำนวณโบนัสสูงสุดของตำแหน่งทางธุรกิจ ณ ปัจจุบัน
หรืออย่างน้อย 75,000 พีวีขึ้นไปต่อเดือน



การขอปรับขึ้นตำแหน่งระดับ แอเรีย เมเนเจอร์ ( Area Manager )
ท่านจะต้องมียอดธุรกิจทีมอ่อนอย่างน้อย 10 % ของยอดคำนวณโบนัสสูงสุดของตำแหน่งทางธุรกิจ ณ ปัจจุบัน
หรืออย่างน้อย 90,000 พีวีขึ้นไปต่อเดือน



การขอปรับขึ้นตำแหน่งระดับ รีเจียนอล เมเนเจอร์ ( Regional Manager )
ท่านจะต้องมียอดธุรกิจทีมอ่อนอย่างน้อย 10 % ของยอดคำนวณโบนัสสูงสุดของตำแหน่งทางธุรกิจ ณ ปัจจุบัน
หรืออย่างน้อย 120,000 พีวีขึ้นไปต่อเดือน



การขอปรับขึ้นตำแหน่งนระดับ เจนเนอรัล เมเนเจอร์ ( General Manager )
ท่านจะต้องมียอดธุรกิจทีมอ่อนอย่างน้อย 10 % ของยอดคำนวณโบนัสสูงสุดของตำแหน่งทางธุรกิจ ณ ปัจจุบัน
หรืออย่างน้อย 180,000 พีวีขึ้นไปต่อเดือน