วันศุกร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2553

น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว Aim Star

น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว

น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว มีสัดส่วนระหว่างกรดไขมันอิ่มตัว และกรดไขมันไม่อิ่มตัว ที่เหมาะสมจึงมีคุณประโยชน์และเหมาะสมต่อการบริโภคมากที่สุด น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวที่ผ่านการสกัดอย่าพิถีพิถันนั้นจะสามารถคงคุณค่าความเข็มข้นของสารประกอบสำคัญต่างๆ ที่ช่วยในการดูแลสุขภาพของเรา

ส่วนประกอบสำคัญของน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว
1. กรดไขมันอิ่มตัว (Saturated Fatty Acid)
2. กรดไขมันไม่อิ่มตัว (Unsaturated Fatty Acid)
3. แกมมา ออริซานอล (Gamma-Orizanal)
4. เซราไมด์ (Ceramide)
5. ฟอสฟอไลปิด (Phospholipids)
6. โทคอลกรุ๊ป (Tocols Group)



กรดไขมันอิ่มตัว (Saturated Fatty Acid)
โดยทั่วไปแล้ว แนะนำให้บริโภคกรดไขมันอิ่มตัวไม่เกิน 10% ของพลังงานทั้งหมด น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวมีสัดส่วนของกรดไขมันอิ่มตัวไม่เกิน 10% จึงเหมาะสมต่อการบริโภคเพื่อการดูแลสุขภาพ เป็นอย่างยิ่ง

กรดไขมันไม่อิ่มตัว (Unsaturated Fatty Acid) 
กรดไขมันไม่อิ่มตัวมีบทบาทต่อการลดระดับไขมันในเลือดโดยลดแอลดีแอล (LDL –C, Low Density Lopoprotein-Choiesterol) และช่วยเพิ่ม เอชดีแอล – คอเลสเตอรอล ซึ่งเป็นคอเลสเตอรอลที่ดี (HDL –C ,High Density Lipoprotein – Cholesterol) จึงช่วยลดอัตราเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด

แกมมา ออริซานอล (Gamma-Orizanal)
เป็นส่วนประกอบที่สำคัญในน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวมีคุณสมบัติที่โดดเด่นหลายประการด้วยกันคือ
- ช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลในเลือด
- ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต
- ช่วยลดอาการผิดปกติต่างๆ ของสตรีวัยทอง
- มีคุณสมบัติเป็นสารต้านการเกิดอนุมูลอิสระและป้องกันรังสีอุลตราไวโอเล็ท
- ช่วยให้ผิวหนังมีความชุ่มชื่น
- ช่วยลดการอักเสบต่างๆ ได้

เซราไมด์ (Ceramide)
เป็นองค์ประกอบของไขมันในชั้นผิวหนัง (Sphingolipid) ซึ่งมีความสำคัญในการปกป้องผนังเซลล์จากการถูกทำลาย มีความสามารถในการกักน้ำได้ดี ช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำจากผิว ทำให้ผิวหนังมีความยีดหยุ่น และชุ่มชื้นอยู่ตลอด

ฟอสฟอไลปิด (Phospholipids)
เป็นโครงสร้างของเยื่อหุ้มต่างๆ ของเซลล์ในร่างกายมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเยื้อหุ้มเซลล์สมองและประสาท ทำให้การสื่อกระแสประสาททำงานได้ดีขึ้น ช่วยปกป้องเซลล์ประสาทจากสารพิษและอนุมูลอิสระต่างๆ นอกจากนี้ยังช่วยเสริมในด้านความจำ และช่วยลดอาการเครียดได้อีกด้วย

โทคอลกรุ๊ป (Tocols Group)
ประกอบด้วย วิตามิน อี (Vitamin E หรือ Tocopherol) โทโคพีนอล (Tocophenol) โทโคไตรอีนอล (Tocotrienol) มีหน้าที่ในการเพิ่มความเข็งแรงให้แก่เซลล์ ช่วยต่อต้านการเกิดอนุมูลอิสระ และป้องกันการแก่ก่อนวัย


เอกสารอ้างอิง
1. Juliano BO,ed Rice :Chemistry and technology, 2nd ed, Minnesota : American Association of Cerial Chemists, Inc 1985 ,p.18
2. Sugano M, Tsu ji E, Rice bran oil and human health, Biomed Environ Sci 1996: 9(2-3):242-6
3. Raghuram TC. Rukmini C. Nutritional significance of rice bran oil .Indian J Med Res 1995:102:241-4